เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

เปิดบริการทุกวัน Open Daily 7.00 -19.00

๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒

กำหนดการกิจกรรมรำลึกครบรอบ 100 วันการจากไปของอาจารย์กรุณา กุศลาสัย


วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552 เวลา13.30-20.00 น.
ณ ห้องประชุมชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ตรงข้ามกับสนามกีฬาแห่งชาติ สี่แยกปทุมวัน Download แผนที่

13.30-14.00 น. ลงทะเบียน

14.00-14.20 น. การแสดงดนตรีไทยบรรเลงในรูปแบบดนตรีอินเดียโดย
วงดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

14.20-14.50 น. สารคดี “ชีวิตที่เลือกไม่ได้… กรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย”

14.50-15.10 น. กวีนิพนธ์ จาก สมณะจันทเสฏโฐ(ท่านจันทร์) และสีแพร เมฆาลัย เป่าขลุ่ยประกอบ

15.10-16.10 น. ปาฐกถา “ชีวิตที่เลือกได้ เพื่ออะไร” โดย อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์

16.10-16.30 น. กวีนิพนธ์จากกลุ่มกวีคนรุ่นใหม่ Thaipoet Societyกฤช เหลือละมัย / ซะการีย์ยา อมตยา / ลัดดา สงกะสินธ์ / แก้วตา ธัมอิน

16.30-16.40 น. การแสดงดนตรีเดี่ยวไวโอลีน โดย พลภัทร จิตติวุฒิการพร้อมการวาดภาพประกอบการแสดงดนตรี โดย สมยศ คำแสง

16.40-16.50 น. กวีนิพนธ์จาก ปกรณ์ เลิศเสถียรชัย

16.50-17.05 น. การแสดงดนตรีอินเดีย บทสวด BHAJAN และ INDIAN DANCE โดยกลุ่มฮินดูสมาช

17.05-17.25 น. “อาจารย์กรุณา ที่ข้าพเจ้ารู้จัก” โดย อ.อรุณ เฉตตีย์ ศูนย์อินเดียศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

17.25-17.30น. เอกอัคราชทูตอินเดียกล่าวสุนทรพจน์

17.30-18.00น. การแสดง INDIA FOLKS DANCE โดย INDIA WOMEN CLUB

18.00-18.10 น. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ อ่านบทกวีรำลึก

18.10-18.20 น. สุรสีห์ โกศลนาวิน ประธานมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป กล่าวปิด

18.20-19.00 น. พักรับประทานอาหาร ขนม ชาอินเดีย ด้านนอกห้องประชุม สนับสนุนอาหารและเครื่องดื่มโดยอาศรมวัฒนธรรมไทย-ภารต/ฮินดูสมาช(เตรียมห้องประชุมเพื่อการแสดงชุดต่อไป)

19.00-19.20 น. ประตูเปิดเพื่อเข้าชมการแสดง

19.20-20.00 น. การแสดงผลงานเดี่ยว I AM A DEMON (ผมเป็นยักษ์) โดย คุณพิเชษฐ กลั่นชื่น (เจ้าของรางวัลศิลปาธรด้านศิลปะการแสดงประจำปี 2549) * รายละเอียดเกี่ยวกับการแสดงผลงนเดี่ียว I AM A DEMON (ผมเป็นยักษ์)

“ผมเป็นยักษ์: I am a demon” เป็นการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ “ตัวละครยักษ์ในโขน” ในมุมมองของพิเชษฐ กลั่นชื่น ว่าการเป็นโขนยักษ์ ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง โดยใช้วิธีการนำเสนองานแบบสื่อสารข้ามวัฒนะธรรม (Cross Culture) ด้วยรูปแบบ Dance Performance เพื่อนำเสนอสิ่งที่ซ่อนอยู่ในโครงสร้างและการเคลื่อนไหวของโขนยักษ์ ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ และฟิสิกส์ เพื่อหาคำอธิบายที่กระจ่างชัดถึงหัวใจ และความหมายของการเคลื่อนไหวการแสดงโดย พิเชษฐ กลั่นชื่น

*เฉพาะการแสดงนี้สามารถติดต่อซื้อบัตรเพื่อเข้าชมการแสดงชุดนี้ ราคาใบละ 800 / 1,000 / 1,500 บาท

ดูรายละเอียดรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย บริจาคสมทบอุดหนุนการทำกิจกรรมของ“กองทุนกรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย เพื่อความเป็นไท ของเด็กและเยาวชน”
จองบัตรเข้าชมการแสดงได้ที่ คุณสุวรรณี หิรัญมาลีเลิศ โทร.086-549-2427, 02-4389331-2 โทรสาร 02-8601278 E-mail : webmaster@snf.or.th

ส่วนรายการภาคเช้าเข้าไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ภายในงาน มีการแสดงภาพศิลปะ 50 ผลงานจากศิลปินชั้นนำหลายหลาย อาทิเช่น อังคาร กัลยาณพงศ์ ประเทือง เอมเจริญ ช่วง มูลพินิจ เทพศิริ สุขโสภา ศักดิ์สิริ มีสมสืบ นฤพนธ์ ชุติวรรณโสภณ อนุพงศ์ จันทร หงส์จร เสน่ห์งามเจริญ ฯลฯ
และมีสินค้า รวมทั้งหนังสือผลงานและที่เกี่ยวข้องกับอาจารย์กรุณา กุศลาสัย จำหน่าย

รายได้ทั้งหมดร่วมสมทบ กองทุนกรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย เพื่อความเป็นไทของเด็กและเยาวชน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำหนดการและกองทุนฯ ได้ที่
โทรศัพท์ 02-438-9331-2//086-608-018 เว็บไซต์ http://www.snf.or.th/ และ http://www.semsikkha.org/

๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๒

โรตี


หลังจากมีผู้ส่งไปรณียบัตรมาร่วมสนุกเป็นจำนวนมาก
ทางเราพบว่าไม่มีชื่อไหนถูกใจเลย
ทางเราจึงได้ใช้อำนาจตามกฏหมาย
เปลี่ยนชื่อหมาจาก โมชิ เป็น โรตี
จากญี่ปุ่น ให้กลายเป็น แขก
มีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักนายกรัฐะโรตี

๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒

สมาชิกใหม่


ประกวดตั้งชื่อน้องหมา สมาชิกใหม่ของครอบครัวนอร์บูลิงการ์
ส่งไปรณีย์บัตรร่วมตั้งชื่อน้องหมาตัวใหม่ได้ที่
637/2 หมู่ 11 ต. ต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 56000
ผู้ที่ตั้งชื่อได้ถูกใจ เลือกรับไปเลยหนังสือเล่มไหนก็ได้ในร้าน
เอาไปเลย
ปล. ชื่อเดิมโมชิ ใช้มาสามเดือน ยังไม่ค่อยถูกปาก

๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๒

คลั่งชาติ!!





บ่ายโมงตรง ขณะลูกค้าหน้าบึ้งท่านหนึ่งนั่งรอกาแฟ สายตาเธอก็คงไปกระทบกับธงชาติที่แขวนอยู่ด้านล่าง เธอหันกลับมา บอกกับผมด้วยสีหน้าขึงขังว่า การนำธงชาติมาไว้ในที่ต่ำอย่างนี้เป็นสิ่งที่ไม่บังควร แรกได้ยิน ผมคิดในใจว่า เอาอีกแล้วกู เจอพวกรักชาติแบบ บางระจัน มาอีกแล้วกู นี่ถ้าบอกมันว่ากูคือพม่า มันคงคว้ามีดปาดคอกูแบบไม่ต้องคิด




ขณะผมเตรียมเหตุผลแบบวิชาการมาอธิบายให้เธอฟังในเรื่อง การกำเนิดของรัฐชาติ แม่ก็ชิงตัดบทบอกว่าขอบคุณลูกค้ามากที่ช่วยแนะนำ และบอกว่าไม่ทันได้คิดจึงได้ผิดพลาดเผอเรอไป




ตัวผมเองคิดว่าการรักและเทิดทูนสถาบัน โดยเฉพาะสถาบันชาติ ในทรรศนะผมคงไม่ใช่แค่การนำธงชาติแขวนไว้เหนือหัวแล้วบอกว่า กูรักชาติ


ผมว่าการรักชาติแบบนั้นมันเป็นแนวคิดชาตินิยมที่ตกค้างมาตั้งแต่จอมพล ป. ซึ่งเดาเอาว่า ป.ปลาในที่นั้นอาจจะย่อมาจาก ปัญญาอ่อน เพราะการรักชาติแบบที่ให้ประชาชนยืนตรงอยู่กับที่เมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติ คงสะท้อนถึงสติปัญญาของผู้ออกกฎเป็นอย่างดี




ครั้งหนึ่งที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ผมกำลังจะเดินทางไปซื้อตั๋วรถไฟเพื่อไปหนองคาย ขณะเดินอยู่
ในสถานีรถไฟ เพลงชาติก็ดังกระหึ่มขึ้น ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างยืนตรงขึ้นและหยุดอยู่กับที่ มีแต่ผมที่แบกกระเป๋าเดินต่อไป
ในทันที เจ้าหน้าคนหนึ่งก็เป่านกหวีดเสียงดังไปถึงพาหุรัด แล้วชี้มือมาที่ผม
เคราะห์ดีที่เพลงชาติดำเนินมาถึงท่อนที่ว่า เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัย ชโย ผมจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ เร็วๆ และเนียนๆ จนหายลับไปจากสายตาเจ้าหน้าที่เวรคนนั้น
ถ้าเดินช้าๆ อาจถูกจับกุม ใส่กุญแจมือ ยัดใส่กระสอบ ทุบด้วยท่อนจันทน์ และส่งไปอยู่กับทนายสมชาย
ยากมากนะครับที่จะอธิบายว่า เรารักชาติ แต่เราไม่เห็นว่าการรักชาติคือการหยุดเดิน หรือแขวนธงชาติไว้เหนือหัว วิธีการรักชาติมีตั้งหลายวิธี ตั้งแต่ เสียภาษี เคารพกฎหมาย ไม่กินเหล้าเมายา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือการรักชาติอย่างเป็นรูปธรรม และพอมีสติปัญญาบ้าง
แต่ก็น่าเสียใจที่เรามักจะรักชาติ ด้วยวิธีเทิดทูนแบบที่เห็นชาติเป็นเหมือนวัตถุมงคลชิ้นหนึ่ง
คลั่งไคล้ในความศักดิ์สิทธิ์จนคิดว่า การนำธงชาติมาไว้ใกล้ๆตีน คือการลบหลู่ดูหมิ่นชาติ
ลืมคิดไปว่า องค์ประกอบของชาติที่สำคัญก็คือ ประชาชน ประชาชนที่หมายถึง ผม และ คุณ
ประชาชนที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและกรรมกรที่ยากจน และส่วนน้อยที่โครตร่ำรวย
อยากรู้เหลือเกินว่า ในยุคนี้ ตำรวจจะจับคนที่ทำผ้าเช็ดตีนลายธงชาติไทย เหมือนกับจับชาวบ้านที่เอาผ้าพันคอลูกเสือชาวบ้านไปเช็ดโต๊กินข้าวในช่วง หลัง 6 ตุลา 19 หรือเปล่า?

๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๒

๘ ตุลาคม ๒๕๕๒

แคบหมู 2





หมาชื่อ แคบหมู






วันพรุ่งนี้คุณแคบหมูจะเดินทางไปอุตรดิตถ์แล้ว
เราจึงถือโอกาสถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

๗ ตุลาคม ๒๕๕๒

glue (2006)


นั่งดูหนังสเปนไม่มีซับ ฟังแม่งไม่รู้เรื่องเลย
แต่ดูจบแล้วเหงาบรรลัย